ยุคนี้ทำไมคนถึงนิยม ปุ๋ยมุกมังกร

นักอ่านอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า ปุ๋ยอินทรีย์เคมี หรือ อะมิโนโปรตีน สำหรับคำนี้ วันนี้ เกษตรปลอดสารพิษ จะมาทำความรู้จักกับเนื้อเรื่องส่วนนี้กัน ว่าสิ่งนี้เท่ากับอะไร ประกอบกับเกี่ยวโยงกันอย่างไรกับการทำเกษตรอินทรีย์ในยุคนี้

ในปัจจุบัน คนที่สนใจปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผลผลิตทางการเกษตรในยุคนี้จะดี หรือมีคุณภาพแค่ไหน นอกจากปัจจัยสำคัญของสภาพดินแล้วก็สภาพอากาศแล้ว การดูแลจัดการระบบการทำเกษตรก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ “ปุ๋ย” ที่นักอ่านอาจต้องนำมาใส่บำรุงให้กับพืชผักผลไม้ที่เพาะปลูก นี่เองจึงถือได้ว่าปุ๋ยนั้น เป็นองค์ประกอบที่สำคัญไม่แพ้ปัจจัยอื่น

โดยปกติแล้ว ปุ๋ยเคมีทุกชนิดที่ใช้อยู่ในประเทศไทย จะเป็นปุ๋ยที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ร่วมกับเป็นอย่างนี้มานานสะสมกันตั้งแต่รุ่นปู่ย่าของเรา ผ่านกาลเวลาหลายสิบปีมาแล้วเราก็ยังคุ้นชินกับการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งก็หมายความว่าปุ๋ยทุกชนิดจะมีสารตั้งต้นมาจากก๊าซแอมโมเนีย (NH3) รวมถึงเป็นก๊าซที่เกิดจากการสังเคราะห์จากอุตสาหกรรมน้ำมันในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยนำมีเทนมาสังเคราะห์ให้ได้ก๊าซแอมโมเนีย

นั่นหมายความว่าบทบาทของก๊าซแอมโมเนียเมื่อมาผสมกับก๊าซตัวอื่น ก็จะมีคุณสมบัติที่ให้เป็นปุ๋ยแตกต่างกันไป เช่น ก๊าซแอมโมเนีย (NH3) บวกกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ก็จะเกิดเป็นปุ๋ย สูตร 46-0-0 หรือที่เกษตรกรรู้จักกันดี ความหมาย ปุ๋ยยูเรีย UREA CO (NH2) 2 รวมไปถึงจากก๊าซแอมโมเนียนี่เอง เมื่อบวกกับก๊าซตัวอื่นๆ ก็จะได้ปุ๋ยแต่ละตัวที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงเราก็จะเอาคุณสมบัติเหล่านั้นมาผสมกันอีกครั้งให้ได้เป็นปุ๋ยสูตรต่างๆ ขึ้นมา รวมถึงผลเสียของมันก็อย่างที่เราท่านได้ทราบ คือทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะดินและน้ำ

จากที่เราได้ใช้ปุ๋ยเคมีมานานนับหลายสิบปี ทำให้สภาพดินที่มีความแข็ง ซึ่งก็กล่าวได้ว่าสิ่งนี้เกิดจากการใช้ปุ๋ยยูเรีย ทำให้ดินเกิดสภาพเป็นกรดบวกกับเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เพราะต้องมีการปรับปรุงดินเพิ่มเติม แต่ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวนั้นดันมีปริมาณลดลง ยิ่งดินเสื่อมโทรมมากๆ ก็ทำให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยที่มากขึ้นไปอีก สังเกตุได้จากการที่เกษตรกรจะใช้สูตรปุ๋ยที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้น

จะดีแค่ไหน หากปุ๋ยที่ผลิตขึ้นมาใช้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพดิน แหล่งน้ำ รวมทั้งสิ่งแวดล้อมรอบตัวไปด้วย

ในความเป็นจริงของการทำเกษตรอินทรีย์นั้น การใช้ปุ๋ย ไม่จำเป็นต้องใช้มาก ร่วมด้วยสามารถใช้ปุ๋ยสูตรเดิมที่ให้ผลผลิตได้ ในปัจจุบันมีการคิดค้นปุ๋ยที่สามารถช่วยปรับปรุงบำรุงดิน บวกกับทำให้พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ โดยใช้ในปริมาณที่น้อยลง

ปุ๋ยที่ว่านี่ก็เช่นนั้นแล้วคือ…การผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคมีที่มีส่วนผสมของโปรตีน ทำให้สามารถช่วยให้ดินกลับคืนสู่สภาพที่ดีขึ้นได้ เมื่อใส่ปุ๋ยตัวนี้ลงไป ก็จะทำให้จุลินทรีย์ในดินเพิ่มปริมาณมากขึ้น ทำให้ระบบนิเวศน์ฟื้นกลับมาเร็วขึ้น พืชก็สามารถเติบโตได้ในสภาพที่ดีมากขึ้น นั่นเช่นนั้นแล้วคือปุ๋ยอินทรีย์เคมี สูตร 12-3-3 หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า ปุ๋ยอินทรีย์เคมีมุกมังกร

ปุ๋ยอินทรีย์มุกมังกร ใช้ดีอย่างไร

ปุ๋ยอินทรีย์เคมีสูตรนี้สามารถใช้ได้กับพืชผลทางการเกษตรทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นพืชสวนหรือพืชไร่ โดยเฉพาะพืชไร่อย่างมันสำปะหลังที่เป็นพืชหัวในดิน เมื่อใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี สูตร 12-3-3 แล้ว ก็สามารถเจริญเติบโตให้ผลผลิตดี รวมทั้งที่สำคัญยังช่วยให้คุณภาพของดินกลับมาดีขึ้นอีกด้วย

ดร. กรีฑา วระนันทนาพันธ์ ประธานกลุ่ม บริษัท กรีนฮาร์เวสท์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 173/1 หมู่ที่ 5 ตำบลอำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เจ้าของสูตรปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรามุกมังกร ร่วมกับ ดร.จิตติมา เรืองรัตนากร (วีระนันทนาพันธ์) ผู้บริหารสูงสุด บริษัท นันทกรี จำกัด โดยเครือนันทกรีผู้ผลิต “ปุ๋ยอินทรีย์เคมี” แบรนด์มุกมังกร ขยายกำลังการผลิตทั้งโรงงานเก่า ผุดโรงงานใหม่อีก 3 แห่งใน 3 จว. “นครปฐม-ชลบุรี-ระยอง” เพิ่มปริมาณปุ๋ยจาก 180,000 ตันเป็น 320,000 กว่าตัน พร้อมแตกไลน์ผลิต ตั้งโรงงานยากำจัดศัตรูพืชอินทรีย์รายแรกของโลก การันตีไม่มีสารตกค้าง 100% เตรียมวางตลาดปี 2566

ด้าน ดร.กรีฑา ก็ยังแจ้งข้อมูลว่า ภายในโรงงานผลิตได้มีห้องแล็บเพื่อใช้สำหรับค้นคว้าวิจัย เพื่อให้การผลิตปุ๋ยมีประสิทธิภาพก่อนถึงมือเกษตรกร โดยมีหลักการของการผลิตว่าวัตถุดิบที่ใช้ต้องไม่มีพิษสะสม ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ พืช รวมทั้งสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บวกกับที่สำคัญต้องทำให้ผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่เกษตรกรมีต้นทุนที่ต่ำลง โดยเกษตรกรสามารถหาซื้อปุ๋ยอินทรีย์เคมี สูตร 12-3-3 ภายใต้ชื่อการค้า ตรามุกมังกร นั่นถือได้ว่าเป็นปุ๋ยอินทรีย์เคมีนวัตกรรมที่มากกว่า N P K มีอินทรียวัตถุบวกกับอะมิโน 19 ชนิด ให้พืชดูดซึมแร่ธาตุได้อย่างสมดุล

สำหรับปุ๋ยอินทรีย์เคมีมุกมังกรนั้น จะดีแค่ไหนคนที่สนใจก็ลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง หากสนใจก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้

ติดตามสาระความรู้และเนื้อหาทันเหตุการณ์ได้จาก กระดานข่าวสาร เกษตรปลอดสารพิษ
อ้างอิงเนื้อหาที่เกี่ยวโยงล่าสุดโดยเรียบเรียงจาก ดินและปุ๋ย