Forum

Notifications
Clear all

โอกาสที่ผู้เลี้ยงสุกรไทย จะได้ไปตลาดส่งออก

1 Posts
1 Users
0 Reactions
168 Views
Posts: 168
Admin
Topic starter
(@admin)
Reputable Member
Joined: 4 years ago

บริโภคหมูทั่วโลก 2.8 ล้านล้านบาท สนค.ชี้โอกาสผู้เลี้ยงสุกรไทย ยกระดับส่งออก

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายรวมทั้งยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ติดตามสถานการณ์การค้าสินค้าสุกรประกอบกับผลิตภัณฑ์ของไทยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562 – 2565) พบว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าสุกรรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ของโลก ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 6.2 ต่อปี มีประเทศผู้นำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เม็กซิโก ร่วมกับเยอรมนี แม้ว่าความต้องการบริโภคสินค้าสุกรทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ประเทศผู้ผลิตในหลายพื้นที่ยังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน อาทิ ด้านมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้า

ซึ่งที่ผ่านมาการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever: ASF) เป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งประเทศต่าง ๆ พยายามหาวิธีควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ ด้านมาตรการส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมรวมทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากการทำปศุสัตว์เป็นสาเหตุสำคัญก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ดังนั้น มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม จึงมีบทบาทสำคัญในการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะมหาอำนาจทางการค้าอย่างสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ที่มีการกำหนดมาตรการทางการค้าเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ไทยไม่ใช่ประเทศผู้ส่งออกสินค้าสุกรร่วมด้วยผลิตภัณฑ์หลักของโลก ในปี 2565 ไทยส่งออกสินค้าสุกรบวกกับผลิตภัณฑ์เป็นมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท (เป็นปริมาณสุกรประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ ราว 54,000 ตัน ประกอบกับสุกรมีชีวิตราว 120,000 ตัว) ประกอบไปด้วยมีสัดส่วนการส่งออกเพียงร้อยละ 0.17 ของมูลค่าการส่งออกทั่วโลก โดยสินค้าที่ไทยส่งออกแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ความหมาย

(1) สินค้าสุกรและก็ผลิตภัณฑ์ ร้อยละ 98.32 โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ เช่นนั้นแล้วคือ ญี่ปุ่น (ร้อยละ 31.7) จีน (ร้อยละ 26.3) กัมพูชา (ร้อยละ 23.7) ฮ่องกง (ร้อยละ 5.9) รวมทั้งเมียนมา (ร้อยละ 5.3) ตามลำดับ บวกกับ

(2) สุกรมีชีวิต ร้อยละ 1.68

โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ คือ เมียนมา (ร้อยละ 61.5) ลาว (ร้อยละ 32.2) และก็กัมพูชา (ร้อยละ 6.2) ตามลำดับ ขณะที่ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม – พฤศจิกายน) ไทยส่งออกสุกรมีชีวิตประกอบไปด้วยสินค้าสุกรและก็ผลิตภัณฑ์ มีมูลค่ารวมราว 6,400 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

นายพูนพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันความต้องการของตลาดโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสในการขยายการส่งออกของไทย ดังนั้น ต้องเร่งยกระดับสินค้าสุกรและผลิตภัณฑ์ของไทยให้ครองใจตลาดโลก โดยมีนโยบายส่งเสริมร่วมกับพัฒนาตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิตประกอบไปด้วยการค้าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อาทิ

(1) การให้ความรู้ด้านการผลิตที่มีมาตรฐานความปลอดภัยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เช่น มาตรฐาน GAP มาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ (อาทิ Organic Thailand, IFOAM, EU, USDA, หมายรวมไปถึง JAS) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะมีส่วนช่วยในการควบคุมการแพร่ระบาดในสุกรได้

(2) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหมายรวมไปถึงเทคโนโลยีนวัตกรรมที่จำเป็น เช่น การทำปศุสัตว์แบบกรีนฟาร์ม โดยนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า ลดกลิ่น ประกอบกับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การส่งเสริมให้นำระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) มาใช้ (เช่น ระบบ RFID รหัสคิวอาร์ เทคโนโลยี IoT หรือบล็อกเชน) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคทั้งในแล้วก็ต่างประเทศ รวมทั้งป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย

(3) หารือแนวทางการบริหารจัดการต้นทุนร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เชื่อมโยง ในประเด็นต่างๆ อาทิ ราคาต้นทุนอาหารสัตว์ ฯลฯ

(4) การส่งเสริมให้ผู้ผลิตจัดทำแผนการจัดการมูลสัตว์ (Manure Management Plan) เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงสามารถนำมูลสุกรมาแปรรูปเป็นปุ๋ย ช่วยเสริมรายได้จากการจำหน่ายปุ๋ยมูลสุกรได้อีกทางหนึ่ง

(5) การผลักดันการเปิดตลาดสินค้าสุกร

ซึ่งล่าสุด ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก (APEC 2023) เมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการหารือกับนายหวัง โช่วเหวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน ขอให้จีนเร่งกระบวนการพิจารณาเปิดตลาดสินค้าปศุสัตว์ให้กับไทย บวกกับ (6) การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แนวโน้มทิศทางการค้าในโลกยุคใหม่

เช่น ประชาคมโลกให้ความสำคัญมากขึ้นกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตร ซึ่งการทำปศุสัตว์มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ เช่น ก๊าซมีเทน ก๊าซไนตรัสออกไซด์ รวมทั้งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้น ต้องให้ข้อมูลความรู้แก่เกษตรกรรวมถึงผู้ประกอบการ เพื่อสามารถปรับปรุงการดำเนินการให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของโลกที่มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

เรียบเรียงใหม่จากเนื้อหาเรื่อง : และอย่าพลาดเรื่องราวใหม่ ๆ จากเรา ที่เดียว

ประกาศฟรี กับเรา พูดคุยเรื่องเกษตรปลอดสารพิษ